อาหารและผลไม้สําหรับคนท้อง
คนท้องควรกินอะไร??
อาหารบํารุงครรภ์
คุณแม่บางท่านอาจจัดรายการอาหารในแต่ละมื้อแต่ละสัปดาห์ไว้แล้ว
เพื่อให้มั่นใจว่าตนเองจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพื่อความสะดวกในการเตรียมอาหารสด
แต่คุณแม่ไม่ควรวิตกกังวลมากจนถึงกับต้องคำนวณแคลอรีและสัดส่วนของอาหารทุก
โดยคำนึงถึงสารอาหารให้ครบทุกหมู่ในแต่ละวัน สลับผลัดเปลี่ยนกันไป คุณแม่อาจรับประทานอาหารไม่ครบทุกหมู่
แต่เมื่อรวมกัน 3-5 มื้อในแต่ละวันแล้ว
(อาจแบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ 5-6 ครั้งภายในหนึ่งวันก็ได้)
ก็ได้สารอาหารที่ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้
เมนูอาหารสำหรับคนท้อง คือ
· อาหารที่มีโปรตีน
3 มื้อ :
เนื้อหมู,
เนื้อวัว, เนื้อเป็ด, เนื้อไก่ไม่ติดมัน,
เครื่องในไม่มีไขมัน 75 กรัม, เนื้อปลา 100 กรัม, กุ้ง 100 กรัม, ไข่ 3 ฟอง, นม 500 มิลลิลิตร, โยเกิร์ต 340 มิลลิลิตร
· อาหารจำพวกแป้ง
4-5 มื้อ : ข้าว, ก๋วยเตี๋ยว, ขนมปังธัญพืช, คอร์นเฟล็ก,
ถั่วแดง
· ผักใบเขียวและผลไม้
3 มื้อ : ผักโขมและบรอกโคลี
25 กรัม, มะเขือเทศ 150 กรัม,
พริกหยวก 25 กรัม, แตงโม
50 กรัม, แคร์รอต 13 กรัม, มะม่วง, องุ่น, ส้ม, ถั่ว 250 กรัม, เงาะ, มังคุด, แอปเปิ้ล
· อาหารที่มีแคลเซียม
4 มื้อ : นมวัว 200 มิลลิลิตร, นมเปรี้ยว 250
มิลลิลิตร, ใบชะพลู, ใบขึ้นฉ่าย,
ใบยอ, ผักโขม, มะเขือพวง,
กุ้งน้ำจืด, กุ้งแห้ง, ถั่วเหลือง,
ถั่วเขียว, เต้าหู้, ปลาซาร์ดีนชนิดมีก้างบรรจุกระป๋อง
· อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี
2 มื้อ : ฝรั่ง, ส้ม, น้ำมะนาว, องุ่น 1 พวง, มะขามป้อม, พริกหยวก 25 กรัม
· อาหารที่มีธาตุเหล็ก
2 มื้อ : ตับ, เนื้อแดง, เนื้อปลา, ไข่แดง,
ใบชะพลู, ใบตำลึง, ใบกะเพรา,
ใบขี้เหล็ก, ใบขึ้นฉ่าย, ชะอม, งา
· น้ำสะอาดบริสุทธิ์วันละ
8
แก้ว : ควรงดกาแฟและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
อาหารที่แม่ได้รับจะส่งผลต่อสุขภาพของลูกอย่างไร
· การพัฒนาของสมองและระบบประสาทหลังจากปฏิสนธิ ในระยะนี้สมองของลูกน้อยจะเจริญเติบโตเร็วมาก
จึงต้องการสารอาหารที่จำเป็นทั้งโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ต่าง ๆ เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม
· การพัฒนาของร่างกาย สารอาหารที่ได้รับจากแม่มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการเจริญเติบโตของลูกน้อย
เช่น กรดโฟลิช่วยป้องกันความพิการของลูกน้อย โปรตีนช่วยสร้างกล้ามเนื้อ
แคลเซียมและวิตามินดีช่วยให้กระดูกแข็งแรง เป็นต้น
· อารมณ์และจิตใจ ลูกน้อยที่เกิดจากแม่ที่ได้รับอาหารที่มีประโยชน์และสมบูรณ์จะมีอารมณ์แจ่มใส
ร่าเริง ยิ้มง่าย ไม่เซื่องซึม เมื่อเทียบกับลูกที่เกิดจากแม่ที่ขาดสารอาหาร
· สุขภาพในระยะยาว อาหารที่คุณแม่ได้รับก่อนการตั้งครรภ์และในระหว่างตั้งครรภ์มีผลต่อการพัฒนาของลูกน้อยในช่วงที่เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ถ้าคุณแม่ได้รับอาหารอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ โอกาสที่ลูกจะเกิดมาแล้วเป็นโรคหัวใจ
ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง รวมทั้งมะเร็งต่าง ๆ ก็มีน้อยลงตามไปด้วย
อาหารที่คนท้องห้ามกิน
ได้แก่ อาหารรสจัด, อาหารก่อโรคกรดไหลย้อน,
อาหารที่ทานแล้วท้องผูก, อาหารที่มีไขมันสูง,
อาหารสำเร็จรูป, อาหารที่เก็บไว้ได้นาน,
ผงชูรส, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ชา กาแฟ น้ำอัดลม ฯลฯ
ผลไม้สำหรับคนท้อง
· กล้วย
: เป็นผลไม้ที่ที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ทำให้คุณแม่อารมณ์ดี
มีใยอาหารสูงที่ช่วยในการทำงานของระบบขับถ่าย
· ฝรั่ง
:อุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินเอ ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคหวัด
ช่วยบำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง
· แอปเปิ้ล
: อุดมไปด้วยเกลือแร่และวิตามิน ช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอล
และช่วยกระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระให้ทำงานได้ดีขึ้น
· มะละกอสุก
: อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและเส้นใยอาหาร
เป็นผลไม้ที่เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีปัญหาเรื่องท้องผูก
· มะม่วงสุก
: อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ฟอสฟอรัส และแคลเซียม
ช่วยในการสร้างกระดูกและฟันให้กับทารกในครรภ์
และบำรุงกระดูกและฟันของคุณแม่ให้แข็งแรง
· มะพร้าว
: อีกหนึ่งผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก เช่น โปรตีน กลูโคส และแคลเซียม
และยังช่วยแก้อาการอ่อนเพลียและดับกระหายได้ดี
· แตงโม
: เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม
มีสรรพคุณช่วยควบคุมอัตราความดันโลหิตของร่างกาย
และยังมีวิตามินซีธรรมชาติที่ดีต่อร่างกาย
· ส้ม
: ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันหวัดและช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้ดี
· สับปะรด
: มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีส
ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระ
· ลูกพรุน :
อีกหนึ่งผลไม้ที่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีปัญหาเรื่องโลหิตจาง
เพราะในลูกพรุนจะมีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบหลัก จึงช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง
และยังมีวิตามินบี 2 ที่จะช่วยสร้างแคลเซียม
ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
ผลไม้ที่คนท้องไม่ควรรับประทาน
· มะม่วงดิบ
จะย่อยได้ยากกว่ามะม่วงสุก ซึ่งอาจทำให้คุณแม่เกิดอาการแน่นท้องได้
(ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ในไตรมาส 2-3 ยิ่งควรหลีกเลี่ยง
เพราะช่วงนี้มดลูกจะโตขึ้นจนเบียดกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารย่อยได้ช้าลง)
ส่วนมะม่วงสุกไม่มีข้อห้ามอะไรครับ ทานได้ตามปกติ แต่ไม่ควรทานบ่อยหรือทานในปริมาณมาก
ๆ
· ทุเรียน
อีกหนึ่งผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะทำให้เกิดแก๊สในลำไส้ได้มาก
อาจทำให้คุณแม่มีอาการจุกเสียดแน่นท้องหรือแน่นหน้าอกได้
แม้จะไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่ก็สร้างความทรมานได้มากเหมือนกัน
· ผลไม้รสหวานจัด
เช่น ลำไย เงาะ มะม่วงสุก มะละกอสุก น้อยหน่า อินทผลัม เป็นต้น
ส่วนนี้ไม่ได้ห้ามนะครับ
ถ้าไม่อยากน้ำหนักตัวเพิ่มแบบไม่ทันตั้งตัวและเสี่ยงเป็นเบาหวาน
ก็ขอให้ลดปริมาณลงครับ นาน ๆ จะกินครั้งหนึ่งก็ไม่เป็นอะไร
ผลไม้แปรรูปหรือผลไม้ดองต่าง ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น