การใช้ยาในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง

การใช้ยาในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
       ไตเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญในการกรอง และขับของเสียต่างๆ นอกจากนี้ ไตยังเป็นอวัยวะที่มีเลือดไหลเวียนปริมาณมาก อาหารถึงยาต่างๆ ที่รับประทานเข้าไปดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และผ่านไปกรองที่ไต และถูกขับออกมากับปัสสาวะ ดังนั้น หากอาหารหรือยาที่ร่างกายได้รับมีอันตรายต่อร่างกาย ไตจึงเป็นอวัยวะที่มีโอกาสสัมผัสเหล่านั้น และได้รับอันตรายจากสารพิษมากที่สุด
         เนื่องจากยาบางอย่างอาจทำให้การทำงานของไตลดลงได้ ดังนั้น การใช้ยาในผู้ป่วยที่มีโรคไตเรื้อรังจึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีโอกาสได้รับผลข้างเคียงจากยามากกว่าคนที่การทำงานของไตปกติ เพราะนาจะอยู่ในร่างกายได้นาน และขับออกทางไตลดลง อันเป็นผลมาจากการทำงานของไตที่ลดลง
          ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ก่อนรับประทานยาควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งว่ายาเหล่านั้นสามารถใช้ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
           ยาดังต่อไปนี้อาจส่งผลต่อไต มีผลทำให้การทำงานของไตลดลง ควรหลีกเลี่ยง หรือปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ หรือได้รับยา

          กลุ่มที่มิใช่สเตียรอยด์ ( NSAIDs ) ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ได้แก่ lbuprofen ( ไอบูโพรเฟน )
Diclofenanc ( ไดโคลฟีแนค ), Indomethacin ( อินโดเมทาซิน ) Naproxen ( นาโปรเซน ),
และ Celecoxib ( ซีลีคอกซิบ )
       ผลข้างเคียงอาจทำให้เกิดอาการบวม ความดันโลหิตสูงอันเป็นผลมาจากการคั่งของน้ำและเกลือในร่างกายและยังมีผลทำให้การทำงานของไตลดลงด้วย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มนี้ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
          ปัจจุบันมีการนำยาสมุนไพรมาใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งอาจจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เนื่องจากข้อมูลการศึกษาของสมุนไพรในผู้ป่วยโรคไตยังมีน้อย และยังขาดการตรวจสอบด้านมาตรฐานในการผลิต นำมาซึ่งสารพิษและสิ่งเจือปนซึ่งอาจมีผลทำให้การทำงานของไตลดลง
            นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังอาจเกิดผลข้างเคียงจากสมุนไพรบางชนิดได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือสมุนไพร ดังต่อไปนี้
          ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังบางครั้งอาจมีความจำเป็นต้องทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ( CT – SCAN ) ซึ่งต้องได้รับสารทึบรังสี ( Contrast media ) เข้าสู่ร่างกายทางหลอดเลือดดำ อันอาจส่งผลให้การทำงานของไตลดลงเฉียบพลันได้
           ดังนั้น ก่อนทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทุกครั้ง ควรแจ้งให้รังสีแพทย์ทราบทุกครั้งว่ามีโรคไตเรื้อรัง เพื่อจะได้ให้การป้องกันไม่ให้การทำงานของไตลดลง
            ยาปฏิชีวนะที่มีผลทำให้การทำงานของไตลดลง เช่น Gentamicin (เจนตามันซิน), Amikacin ( อะมิกาซิน ) การได้รับยากลุ่มนี้ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังอาจทำให้การทำงานของไตลดลง และยาปฏิชีวนะบางตัวจะต้องมีการปรับลดขนาดยาลงในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ดังนั้น จังไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง
         ปัจจุบันมีอาหารเสริมหลายชนิดออกจำหน่ายมากมาย รวมถึงส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บางอย่างมีปริมาณมากเกินไป ไม่เหมาะสมที่จะบริโภคในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เช่น มีโปรตีนในปริมาณสูง ซึ่งอาจส่งผลเสียทำให้การทำงานของไตลดลงได้ หรือมีเหลือแร่บางอย่างในปริมาณสูง เช่น โพแทสเซียม ส่งผลให้เกิดการคั่งของโพแทสเซียมในร่างกาย ซึ่งทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
         ดังนั้น การที่พิจารณารับประทานอาหารเสริมควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนทุกครั้ง
1.       รับประทานตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดไม่ปรับเพิ่ม หรือลดขนาดยาเอง รวมทั้งไม่นำยาของผู้อื่นมารับประทาน หากมีปัญหาในการใช้ยาควรปรึกษาแพทย์ และเภสัชกร

2.      ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง
3.     หลีกเลี่ยงการใช้ยาชุด ยาหม้อ ยาสมุนไพร ยาลูกกลอน รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทุกชนิด
4.      ก่อนใช้ยาควรตรวจสอบสภาพเม็ดยา สีเม็ดยา และวันหมดอายุ
5.     เมื่อต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งว่าท่านมีโรคไตเรื้อรัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น